x
Submitted by CUEDU_PR on 28 June 2022

เมื่อวันจันทร์ที่ 27 มิถุนายน 2565 ณ พระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ศ.กิตติคุณ นพ.ภิรมย์ กมลรัตนกุล นายกสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทูลถวายปริญญาครุศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์แด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก โดยมี ศ.ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดี และคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย ร่วมในพิธี

ในโอกาสนี้ นายกสภามหาวิทยาลัยเข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะ คณบดีคณะครุศาสตร์เข้าเฝ้าถวายสูจิบัตร อธิการบดีกราบทูลประกาศสดุดีเฉลิมพระเกียรติคุณ เนื่องในโอกาสที่สภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทูลถวายปริญญาครุศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ภายหลังจากการทูลถวายปริญญาครุศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์แล้ว สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกประทานพระดำรัส

สภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการประชุมครั้งที่ 852 เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2564 ได้พิจารณาเห็นพร้อมกันว่าสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงปรากฏพระกิตติคุณในทางครุศาสตร์เป็นอเนกปริยาย สมควรที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจักได้เชิดชูเฉลิมพระเกียรติคุณให้เป็นแบบอย่างในทางวิชาการสืบไป

เจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ทรงสอบได้เป็นเปรียญธรรม 6 ประโยค ทรงสำเร็จการศึกษาปริญญาศาสนศาสตรบัณฑิตจากสภาการศึกษามหามกุฏราชวิทยาลัย และปริญญามหาบัณฑิตทางประวัติศาสตร์และโบราณคดี จากมหาวิทยาลัยบานารัสฮินดู สาธารณรัฐอินเดีย ครั้นทรงสำเร็จการศึกษาบริบูรณ์แล้ว ได้เสด็จกลับมาทรงประกอบพระกรณีย์อันเกื้อกูลการศึกษาถ้วนทั่วทุกด้าน มีพระคุณลักษณะตระการเพียบพร้อมด้วยความเป็นครู นักวิชาการการศึกษา นักบริหารการศึกษา และนักพัฒนาการศึกษา อาทิ ทรงอุทิศพระองค์เป็นอาจารย์ประจำในสภาการศึกษามหามกุฏราชวิทยาลัย แม้ปัจจุบันก็ทรงสถิตที่นายกสภามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ทรงพระนิพนธ์พระคติธรรมประทานแก่ศาสนิกชนอยู่เป็นเนืองนิจ ทั้งยังทรงส่งเสริมการอบรมทางพระพุทธศาสนาให้เกิดมีขึ้นทั้งในและต่างประเทศ ทรงอนุเคราะห์สร้างสรรค์การศึกษาเรียนรู้ให้เกิดขึ้นทุก ๆ ด้าน รวมความว่าพระครุศาสตรกรณีย์มีมากพ้นที่จะพรรณนาประกาศพระเกียรติคุณได้ทั่วถ้วน สมดังสร้อยพระนามที่ว่า “กิตตินิรมลคุรุฐานียบัณฑิต” คือทรงเป็นบัณฑิตที่มีเกียรติประวัติผ่องแผ้วและตั้งอยู่ในฐานะของความเป็นครู

สภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจึงมีมติเป็นเอกฉันท์ถวายปริญญาครุศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ เพื่อจำหลักเป็นพยานเชิดชูพระเกียรติคุณ และจักได้เป็นอดุลยมังคลานุสสรณ อำนวยพรสิริสวัสดิพิพัฒน มงคลแก่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยสืบไป

ขอบคุณข้อมูลจาก ศูนย์สื่อสารองค์กร จุฬาฯ