ประจำวันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน 2563 การปฏิบัติเพื่อละตัวตน ตอนที่ 4
เช้าวันหนึ่งพระพุทธเจ้าเล็งพระญาณเห็นพ่อของนางมาคันทิยาเข้าข่ายพระญาณจึงเสด็จไปโปรด ขณะนั้นพ่อของนางกำลังมองหาลูกเขยพอดี เพราะความที่มีลูกสาวสวยมาก ทำให้พ่อไม่เห็นใครเหมาะสม เมื่อพ่อนางมาคันทิยาเห็นพระพุทธเจ้าชอบทันที ให้คนไปตามนางมาคันทิยา พระพุทธเจ้าเห็นหน้านางแล้วทรงตรัสว่าแม้ปลายเท้าของเราก็ยังไม่อยากเขี่ยกองปฏิกูล นางมาคันทิยาได้ยินดังนั้นโกรธจัดแต่ประโยคนั้นกระแทกใจทำให้พ่อนางมีดวงตาเห็นธรรม เห็นความจริงว่าร่างกายนี้ล้วนเป็นกองปฏิกูล ไม่มีอะไรน่ายินดี
วันๆยุ่งอยู่กับของทิ้งของปฏิกูล พระพุทธเจ้าเปิดความจริงแต่คนไม่สนใจพิจารณาว่าร่างกายเป็นกองปฏิกูล (กองขยะเน่าเหม็น) เพิ่งอาบน้ำเสร็จก็เหม็นแล้ว แต่ละอวัยวะล้วนเป็นธรรมคือเป็นไตรลักษณ์หรือเป็นสิ่งปฏิกูลไม่มีชิ้นส่วนใดสะอาดเลยเห็นทุกอย่างล้วนเป็นของเกิดเสื่อมดับ ของทิ้ง ของตาย ของปฏิกูล วันๆ ยินดียินร้ายกับกองปฏิกูล หลวงพ่อบางองค์กล่าวว่าช่วยเอาส้วมของเธอไปตั้งไกลๆจากส้วมของอาตมา ร่างกายแต่ละคนเปรียบเหมือนส้วมทีเดียว
เห็นของเกิดมาตายเป็นเรา เห็นสิ่งที่มีอยู่ในโลกเป็นของเรา เหล่านี้เป็นมิจฉาทิฐิ เข้าใจธรรมคือเข้าใจสิ่งที่มีอยู่ในโลกทั้งหมดเป็นธรรม เป็นของเกิดดับ เป็นปฏิกูล อย่ามัวดีใจว่ามีงานมาก มีเงินมาก อย่าอยู่แบบเมืองไม่มีกำแพง ข้าศึกเข้ามาเข้าถึงใจกลางทันที หมั่นสร้างกำแพงใจให้มีสติสมาธิปัญญาอย่ามัวเพลินนอนบนกองมูตรกองคูด (กองอุจจาระปัสสาวะ) หาทางทำให้จิตพ้นจากกิเลส คนมีศีลอยู่ที่ไหนก็มีความสุข คนมีสติอยู่ที่ไหนก็มีความสุข ไม่ยึดในสิ่งที่ต้องตาย
ให้รู้ชัดในกองสังขารทั้งหลายแล้วปล่อยวาง เห็นชัดจะไม่ยึดเอง จะไม่หลงในสังขารทั้งปวง ธรรมทุกอย่างมีอยู่ในเราแล้วไม่ต้องไปหาที่ไหน ดินน้ำไฟลม สิ่งเกิดดับ ไม่เที่ยง อนัตตา มีอยู่ในเรา หาหนทางปล่อยวางและทิ้งขันธ์อย่าหลงติดสมมติว่าดีมีราคา อยู่ในสมมติมานานแสนนาน มิใช่ของจริง เมื่อใจอยู่กับสิ่งที่ประเสริฐ ใจประเสริฐด้วย เห็นกายชัดเห็นจิตชัด เห็นชัดส่วนใดส่วนหนึ่งจะเห็นตลอด จึงให้พิจารณาจุดเดียวให้ชัดก็พอ เห็นกายชัดเห็นอริยสัจ เห็นจิตชัดเห็นอริยสัจมองให้เห็นความจริงว่าร่างกายเป็นกองปฏิกูลจะช่วยให้ทิ้งกายได้ง่ายขึ้น หรือมองว่าเป็นอนิจจังทุกขังอนัตตา มีแต่ของเกิดดับยึดไม่ได้ บางคนมองเป็นปฏิกูลแล้วลงแก่ใจง่าย บางคนมองเป็นของเกิดเสื่อมดับลงแก่ใจง่าย แล้วแต่จริต
สรุป ร่างกายเป็นเพียงกองปฏิกูลอย่ามัวเพลินอยู่กับกองปฏิกูลเหมือนหนอนที่เพลินกับการกินอุจจาระไปวันๆ ร่างกายนี้เสื่อมตลอดเวลาจึงไม่เที่ยง ใครเห็นตัวเองแก่ลงทุกวินาที (เห็นความไม่เที่ยงของสังขาร) ยกมือขึ้น ใครเห็นความจริงว่าตัวเราคือกองปฏิกูลเน่าเหม็นแม้จะอาบน้ำให้ทุกวันตั้งแต่เกิดจนวันตายก็ยังเหม็นอยู่ดียกมือขึ้น